shelby/miles; 𝐚 𝐟𝐚𝐯𝐨𝐫

𝐚 𝐟𝐚𝐯𝐨𝐫

pairing: carroll shelby / ken miles

fandom: Ford v Ferrari

rating: pg-13

notes: หลวมตัวไปดู fvf มาจนได้ค่ะ หลังจากแอบซุ่มอ่านฟิคเรือนี้ของเพื่อนมานาน อ่า สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้น่าชิปไปน้อยกว่าเดิมเลย เคมีสองคนนี้เค้าน่ารักมากกก ตั้งแต่ตัวละครในหนังถึงนักแสดงเองเลย ฮือออ ก็เลยเกิดมากาวเป็นเรื่องนี้ ถึงจะไม่ค่อยเกี่ยวอะไรกับนักแสดงแต่ก็ นั่นแหละ! อยู่ดีๆ ก็อยากแต่งเชลเคนที่เคยเป็นแฟนเก่ากันก่อนมาทำงานด้วยกันอีกรอบ มันคงจะตลกดี ตอนทะเลาะกันก็จะเหมือนแฟนทะเลาะกันมากกว่าเพื่อนกันเองทะเลาะกัน ความรักมันอยู่ตามอากาศอ่ะเนอะ

ฟิคเรือนี้เรื่องแรก ไม่มีความรู้เรื่องรถเลย ;-; เปิดเรฟในหนังคู่ๆกันไป ถ้ามีข้อมูลผิดพลาดก็ขออภัยไว้ด้วยนะคะ

sds


 

“นี่เชล”
“ว่าไง”
“ฉันรักนาย”
“อื้อ รู้แล้วล่ะหน่า”
“จะผ่านไปนานเท่าไรฉันก็รักนายเข้าใจไหม”
“หุบปากไปเลยเคน กินข้าว”
“แล้วนายล่ะ”
“ฉันก็รักนายบูลด็อก นายก็รู้อยู่แล้ว”

 

 

เป็นปีๆ ต่อมา ไม่รู้ว่าเวลาล่วงเลยไปขนาดไหน จำได้ว่าเมื่อวาน เชลบี้ถูกเชิญไปงานแต่งงานของเคนกับมอลลี่อยู่เลย และวันนี้ เจ้าปีเตอร์ที่โตเป็นหนุ่มกลับยืนอยู่ห่างเขาเพียงไม่กี่สิบเมตร กำลังรอชื่นชมคุณพ่อของตัวเองเข้าที่หนึ่งเส้นชัยการแข่งวิลโลว์ สปริง 100 ปี ปีเตอร์กระโดดลงเข้าไปนั่งข้างๆ เคนในรถแล้วขับห่างออกไป

ไม่คิดเหมือนกันนะว่ามันจะผ่านมานานขนาดนี้แล้ว

 

 

เชลกำลังคิดหนัก

ทางฟอร์ดจ้างเขา เขาไม่มีทางหาคนเก่งพอมาช่วยทำงานนี้ได้ ชื่อแรกที่เขานึกออกคือเจ้าเคน แต่เรื่องราวในอดีตมันได้กลับมาหลอกหลอนเขาแน่ๆ ถ้าสมมุติว่ามีผู้ชายคนนั้นเข้ามาอยู่ใกล้ๆ เชลบี้พยายามหาคนมาแทน ใครก็ได้ที่เก่งๆ ในละแวกนี้ หรือละแวกเพื่อนบ้านก็ได้ตราบใดที่เขายินดีมาทำงานกับเชลบี้ อเมริกัน เวลาผ่านล่วงเลยไปเกือบเดือน อาสาสมัครทั้งหมดสี่คน ไม่ได้เรื่องทั้งนั้น และทางฟอร์ดเองก็กำลังจะหมดความอดทนกับเขา

“เชล” ฟิล ช่างกลคู่ใจของเชลบี้ที่มักจะถูกเรียกว่าป๋า เดินเข้ามาจากด้านหลัง หลังจากที่เชลบี้ได้ไล่อาสาสมัครคนที่ห้ากลับบ้านไป ฝ่ามือวางลงที่ไหล่ของเขา “ไปหาเขาเถอะ”

คงเลือกไม่ได้แล้วสินะ

 

 

“นายคิดว่าฟอร์ดจะให้นายสร้างรถแข่งในฝันตามแบบที่นายฝันงั้นหรอ”

พวกเขานั่งกันอยู่ที่ไดเนอร์ เชลบี้สั่งแฮมเบอร์เกอร์ ส่วนเคนได้ฟิชแอนด์ชิปตามสไตล์ชาวอังกฤษของเขา แต่เขาดูจะกินหมดก่อนเชลด้วยความหิวโหย เมื่อหนังท้องตึง มันก็ต้องนั่งยืดเส้นยืดสายซักหน่อย

เชลยกแก้วชามะนาวซดเข้าปาก ก่อนจะมาถึงที่นี่เขากังวลอยู่เป็นชั่วโมงๆ มีใครยังมาแทนเคนได้อีกไหม แต่ในเมื่อในพจนานุกรมมันไม่เหลือใครแล้ว เขาก็ต้องมานั่งฟังอีกฝ่ายพูดพล่ามด่าทอถึงบริษัทใหญ่ยักษ์ที่เขากำลังทำงานให้อยู่นี่ นอกจากการมาเจอเขายังปวดประสาทตัวเองแล้ว การโน้มน้าวให้เขาไปทำงานด้วยยิ่งเหนื่อยกว่า แล้วเดี๋ยวอาจจะต้องเจอเขาอีกบ่อยครั้งเพราะยังไงก็ต้องเอาเคนมาทำงานนี้ให้ได้ เขาคือตัวเลือกสุดท้ายของเชลบี้แล้วจริงๆ

“วันอาทิตย์จะมีงานเปิดตัวมัสแตงรุ่นใหม่ เขาจะประกาศแผนการแข่งด้วย และฉันก็จะขึ้นพูดบนเวที”

เคนที่กำลังยกจานไปเก็บชะงัก

“มาซักหน่อยหน่า เอาปีเตอร์มาด้วย” ต้องเอาลูกชายล่อไว้งั้นหรือ

เคนได้ยินพลางยิ้มเล็กยิ้มใหญ่ ไม่รู้ว่าในหัวเขาคิดอะไร การที่ได้พาลูกชายไปดูงานเปิดตัวรถชื่อดัง หรือเพราะว่าเชลกำลังเชิญเขาไปดูสุนทรพจน์ของตัวเองในงาน

เชลมั่นใจว่ามันคงจะเป็นอย่างแรกมากกว่า

“เจอกัน เชลบี้”

 

 

เหมือนว่าในงานมัสแตงเชลจะพูดอะไรไม่เข้าหูเคนไปซักหน่อย เวรละ ก็ไม่คิดว่ามันจะออกมาเป็นแบบนี้เหมือนกัน ต้องเสียเวลาไปหาเคนเพิ่มอีกแล้วใช่ไหมเนี่ย

“ครึ่งชั่วโมง นายต้องชอบแน่ๆ”

เขาพาเคนนั่งรถมาถึงอู่ใหญ่โตของเขา อวดรถแข่งคันใหม่ให้ และดูเคนจะชอบอกชอบใจ บ่นนาๆ เกี่ยวกับสิ่งที่รถคันนี้ขาดไปเพื่อที่จะเอาไปทำเป็นรถแข่งคู่กันเฟอร์รารี่

เขาเลือกคนมาไม่ผิดจริงๆ

“ได้ ทำก็ทำ” เคนลั่นวาจาศักดิ์สิทธิ์ออกมา เชลแทบจะเก็บอารมณ์ไว้ไม่ไหว ยกขึ้นกำมือและร้องเยสขึ้นมาอย่างห้ามไว้ไม่ได้

“เอ่อะ โทษที นายเป็นคนที่หกแล้ว ฉันทำพลาดกะอาสาสมัครคนอื่นๆ มาเยอะ ช้ำใจ”

เคนยิ้ม พลางควงกุญแจรถในมือ “นี่คือเหตุผลที่คะยั้นคะยอจะให้ฉันมาทำให้ให้ได้ใช่ไหม”

“ก็ ใช่ เกือบจะถึงเดดไลน์แล้วฉันยังไม่คืบหน้าอะไรเลย เรียกว่าคืบไปข้างหลังได้”

“ดีแล้ว” เขายกตัวออกจากรถแข่งคันใหม่ แล้วเดินกลับไปที่รถของเชลบี้ “หมดครึ่งชั่วโมงของนายแล้ว ท่าทางนายก็ดูแฮปปี้ดี ฉันจะไปหาแท็กซี่ขึ้นกลับบ้าน”

“โอ้ ไม่ ฉันเอานายออกมา ให้ฉันไปส่งนายเถอะ”

 

 

เพราะท่าทางที่ดูนิ่งเฉยของเคน ทำให้เชลเริ่มประหม่าน้อยลง เขาไม่รู้ว่าตัวเองเสนอไปส่งเคนถึงที่บ้านทำไมวันนั้น ในใจลึกๆ เองตอนนี้ก็ยังคงกลัวอยู่ แต่เมื่อได้ใช้เวลานิดๆ หน่อยๆ มันกลับรู้สึกเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เคนก็มีครอบครัวแล้ว เขาอาจจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเขากับเชลเลิกกันเพราะอะไร ให้ตายสิเคนยังชอบผู้ชายอยู่หรือเปล่านะ

แต่นั่นใช่เรื่องที่น่ากังวลตรงไหน

 

 

“ขอโทษ”

นั่นไม่ได้หยุดกำหมัดที่สอยเข้ามาจนแว่นกันแดดของเชลแตกเละไม่เหลือสภาพ หมัดอีกก้อนสวนกลับเข้าไปหาเคน ทั้งคู่ลงไปกลิ้งบนพื้น ดันใบหน้ากัน ตีด้วยหนมปัง จิกรักแร้ หรือใช้ฝาถังขยะมาเป็นโล่ ยังมีดึงชายเสื้อกันเหมือนเด็กมัธยมตีกันอย่างนั้น จนทั้งสองล้มลงและนอนแผ่ไปกับพื้นหญ้า มอลลี่เสนอหยิบโซดาออกมาให้ก่อนจะขึ้นรถไปซื้อกับข้าวที่นอนเละเทะอยู่รอบข้างเด็กชายทั้งสองคน

“อะไรวะที่มันจิกๆ ฉัน”

“ฉันเรียกมันว่าลามะขม้ำ”

“ไอ้เวรนี่ยังอุตส่าห์มีชื่ออีกนะ เรียนมาจากค่ายเนตรนารีหรือไง”

พวกเขาพักหายใจและยกซดโซดาเข้าปากกันอึกใหญ่

“เฮ้ ฉันขอโทษจริงๆ นะที่ไม่ได้พานายไป” เชลพูดขึ้น อีกฝ่ายไม่ตอบใดๆ

“ถ้านายไปฉันว่านายคงชนะเลยล่ะ ขอโทษ”

เคนค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วเดินกลับเข้าไปที่ตัวบ้าน “เออ เรื่องของนายเหอะ”

แต่สิ่งที่เชลไม่เห็นคือใบหน้าที่เปื้อนยิ้มหวานของหนุ่มผิวคล้ำที่หันหลังให้

 

 

ไฟและควันลามไปทั่วทั่งถนนพื้นอู่ของเชลบี้ อเมริกัน ผู้คนที่เกี่ยวข้องกำลังเข้าไปช่วยดับไฟ และรถดับเพลิงกำลังมาถึงแล้ว เขาคิดว่าถ้ารถยังไม่มากลุ่มคนของเขาก็คงเอาไม่อยู่เหมือนกัน แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงกว่าไม่ใช่ไฟ แต่เป็นผู้ประสบภัย ผู้เคราะห์ร้ายที่เป็นต้นตอของไฟนั่น

“นายโอเคไหมเคน”

“ฉันโอเค นายแหละเป็นอะไร”

“…” เชลไม่ตอบ เขาเหล่สายตามองต่ำ

“อย่ามาบอกว่าเป็นเรื่องเบรก เพราะนายหน้าเหมือนหมามาตั้งนานแล้ว”

ไม่น่าใช่เรื่องที่เคนจะต้องมาเป็นห่วงแล้ว หนำซ้ำ เขากับเคนไม่ได้เดินเข้ามาหากันเลยเกือบสามชั่วโมงแล้ว เคนจะมารู้ได้ยังไงว่าเชลบี้กำลังเครียด

เคนยกมือขึ้นวางที่แก้มของเชล “ฝ่ายบริหารหรอ” เชลชะงัก ขยับตัวหนีออกมาจากสัมผัส

“เราคุยกันแล้วนี่เรื่องนายทำงานของนายและฉันทำงานของฉัน”

ใบหน้าเขาร้อนผ่าวไปหมดเลยตอนนี้

“เอาอยู่แน่นะเชล”

“เอาอยู่สิ”

เคนเงียบไป แต่ก็เปลี่ยนสีหน้าขึ้นมายิ้มเบาๆ

“That’s my boy”

เขาเดินเข้าไปตบบ่าเชลก่อนจะเดินไปล้างตัวในห้องอาบน้ำ เชลยกมือขึ้นจับแก้มตัวเองอย่างช่วยไม่ได้ เคนชอบทำแบบนั้นตอนที่พวกเขาคบกัน อะไรอ่ะ ไม่เห็นจะต้องทำแบบนั้นเลย ไม่มีเหตุผลเลยที่จะต้องทำแบบนั้น คนมันหวั่นไหวนะ

น้ำเย็นสาดไหลลงจากศีรษะลงไปถึงปลายเท้า เคนยกมือขึ้นลูบหัวและใบหน้าของตัวเองก่อนจะยกแขนวางเท้ากับผนัง เขาไม่รู้ว่าอยู่ดีๆ เขาไปสัมผัสใบหน้าเจ้าเชลทำไม มันคงจะเป็นความเคยชิน ความใกล้ชิดที่พวกเขาเคยมีต่อกัน พวกเขาเลิกกันก่อนเคนจะแต่งงาน แต่เมื่ออยู่กับมอลลี่แล้ว เขากับเชลไม่ได้สนิทกันเหมือนแต่ก่อน เป็นช่วงนี้ช่วงเดียวในรอบหลายปีที่พวกเขาคุยกันเยอะขนาดนี้ เมื่อตอนที่อยู่ด้วยกันพวกเขาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันบ่อยครั้ง พฤติกรรมบางอย่างที่เชลเป็นมีส่วนจากสิ่งต่างๆ ที่พวกเขาเคยเจอมาด้วยกัน พวกเขาแทบจะสร้างตัวในสังคมขึ้นมาพร้อมๆ กัน โหยหาถึงอดีตอันหอมหวานหรอ? ถึงเข้าไปจับมือถือแขนเขาสุ่มสี่สุ่มห้าแบบนั้น ราวกับว่าถ่านไฟเก่ามันยังคุกกรุ่นอยู่ตลอดเวลา

 

 

เคนได้ที่หนึ่งอีกครั้งในงานเดย์โทนา 24 ชั่วโมง ทั้งทีมจัดปาร์ตี้ที่บาร์กลางแจ้งให้เขา ขณะที่กำลังรอเจ้าของงานเดินเข้ามา ก็มีคนเห็นเคนกำลังเดินหนีออกไปซะก่อน ทุกคนส่งเสียงเชียร์ให้เคนเข้างาน เชลที่กำลังปรบมือพร้อมรอยยิ้มโตบนหน้ามองไปที่เคน เขารู้ว่าเคนไม่ได้ชอบเข้าสังคมกลุ่มโตขนาดนี้ แต่ก็นะ วันนี้เขาเก่งมากๆ เลย

เมื่อเคนเห็นว่าเชลกำลังมองมาที่เขาด้วยรอยยิ้ม เขาเดินเข้าไปหาพร้อมโอบแขนกอดคอไว้ เชลโอบกลับที่เอวและพาเดินเข้าไปในงาน หลังจากกินข้าวกินเหล้ากันจนเมาหน้าแดง เชลจึงขอเสนอไปส่งเคนที่ห้องพัก เตรียมตัวเข้าแข่งเลอมังส์ที่เป็นเป้าหมายหลักของงานนี้

 

 

“พรุ่งนี้ฝนก็จะตกอีก”

หัวค่ำของก่อนวันแข่งเลอมังส์ เคนตัดสินไปสำรวจสถานที่แข่งซักหน่อย แต่กลับเจอผู้ชายที่คุ้นหน้าคุ้นตานั่งอยู่ที่พิตกับขวดเหล้าในมือ เชลนั่งขัดสมาธิอยู่ส่งยิ้มมาให้ มือหนึ่งยื่นขวดเหล้าอีกขวดส่งอีกคน เคนยิ้มพลางเดินใกล้เข้ามาหา

“ไง ฉันว่าแล้วว่านายต้องอยู่ที่นี่” เคนรับขวดเหล้าเข้ามากระดกอึกเล็กๆ จะกินเหล้าก่อนวันแข่งเยอะมากไม่ได้

“นายควรไปนอนเก็บแรงสิเคน”

“นายก็ด้วย”

“ฉันไม่ได้เป็นคนขับ” เชลยิ้มอย่างผู้ชนะ เคนหัวเราะพลางทอดสายตามองไปตามพื้นถนน “เสียดายจัง”

“ตื่นเต้นไหม”

“ถ้าถามเมื่อวานก็จะบอกว่ามาก ตอนนี้ไม่ค่อยเท่าไรแล้วล่ะ”

“งั้นหรอ” เชลก้มลงมองฉลากขวดแอลกอฮอล์ของตัวเอง เคนพูดแทรกขึ้นมา

“ฉันว่าจะไปเดินดูถึงโค้งแรกซักหน่อย”

เชลบี้กระโดดลงจากคอนกรีต “ไปด้วยได้ไหม” เคนไม่พูดอะไรพลางเดินนำหน้าไป อีกคนวิ่งตามไปเดินข้างๆ เดินไล่มาจนถึงที่ที่แสงในพิตไล่มาไม่ถึง ท้องฟ้ากลายเป็นสว่างขึ้นมาแทน เคนเงยหน้ามองท้องฟ้าโปร่ง แสงสว่างจากดวงจันทร์ทำเขาแสบตาเล็กๆ

“จำได้ไหมเมื่อก่อนเราชอบนอนดูดาวบนหลังคาบ้านนาย” เคนพูดขึ้นมา เชลหันไปมองขวับ ทำไมถึงเอาเรื่องสมัยที่คบกันมาพูดถึงแบบนี้ล่ะ แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เขาก็คิดถึงช่วงเวลาแบบนั้นเหมือนกัน ช่วงที่ยังเป็นหนุ่ม ใช้ชีวิตเละเทะเรื่อยเปื่อย พวกเขามีความทรงจำด้วยเยอะเหลือเกิน เห็นทีจะมากเกินไป

“จำได้สิ ทั้งๆ ที่ในตัวเมืองมันไม่มีดาวอะไรเลยแท้ๆ ก็ยังจะมองกันอยู่ได้” เชลบี้หัวเราะ เคนหัวเราะตามและยื่นขวดเหล้าเข้าไปชนกับขวดอีกคน

“จนถึงทุกวันนี้ฉันยังทำอยู่เลย ปีนขึ้นหลังคา”

ขึ้นไประลึกถึงใครหรือเปล่า หวังว่ามันจะเป็นเขานะ

“ไปกับมอลลี่หรอ”

เคนยิ้ม “ปีเตอร์น่ะ”

“อ๋า เข้าใจละ เผยแพร่ศาสนาให้ลูกชายต่องั้นสิ ฉันต้องจดทะเบียนไว้หรือเปล่า”

“เฮ้ เท่าที่จำได้ ฉันเป็นคนชวนนายขึ้นหลังคาไปตะหาก”

“และคนที่ให้ไอเดียมองดาวคือฉัน นายแค่ไปหาที่กินเบียร์เฉยๆ” ทั้งคู่หัวเราะ พลางเดินกันต่อด้วยความเงียบ เชลบี้พยายามจะพูดอะไรซักอย่างไม่ให้มันเงียบเกินไป

“พรุ่งนี้สู้ๆ เขาล่ะ เอาให้ชนะเลย”

“ฉันชนะไม่ได้หรอกถ้าไม่มีนายอยู่ที่พิต”

“งั้นฉันจะไม่หนีออกไปจากพิตเลย บูลด็อก” เชลตอบ แต่เคนกลับค่อยๆ ลดยิ้มลง และก้มหน้ามองพื้น เขาพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า เชลคิด

“นายไม่ได้เรียกฉันด้วยชื่อนั้นมานานแล้วนะ”

เชลบี้ขมวดคิ้ว “ชื่อไหน”

“นายเพิ่งจะใช้ไปเนี่ยนะ”

“ไม่ ฉันเผลอตัวจริงๆ” เชลหยุดเดินแล้วยกขวดเหล้าวางที่อกของอีกคนให้หยุดตาม “พูดอะไรนะ”

“บูลด็อกไงเชล”

“โอ้ ฉันใช้คำนั้นหรอ”

เคนเลิกคิ้ว เชลหัวเราะแห้ง ยกมือขึ้นเกาหัว ชื่อเล่นนี้เป็นชื่อที่เชลมักจะใช้เรียกเขาสมัยที่ยังคบกัน เพราะว่าเคนชอบทำหน้ามู่เหมือนสุนัขพันธุ์นั้น บางทีก็นิสัยจะคล้ายๆ ตามๆ กันไป เผลอไปจริงๆ นะ หรือจะเป็นเพราะความใกล้ชิด

“งั้นหรอ โทษที เผลอตัวไปหน่อยน่ะ”

“ช่างมันเถอะ มันมีแค่นายคนเดียวที่เรียกฉันแบบนั้นอยู่แล้ว”

เคนละสายตามองไปยังพื้นถนนไกล เชลบี้เริ่มรู้สึกผิดขึ้นมาหน่อยๆ แล้ว “บูลด็อก”

เจ้าของชื่อหันกลับมา

“ชอบให้เรียกชื่อนี้ไหม”

เคนยิ้ม “เอาสิ ให้นายเรียกคนเดียวนะ”

พวกเขายกขวดเหล้าชนกันอีกครั้ง ก่อนจะแยกย้ายกันไปพักผ่อนเตรียมตัวเข้าวันแข่งขัน

 

 

เลอมังส์เริ่มมาได้เกือบหกชั่วโมงแล้ว เคนยังคงอยู่ในรถ เขาจำไม่ได้แล้วว่าเป็นกะที่เท่าไรของเขา สติของเขาอาจจะมีเลอะเลือนเพราะความเหนื่อยไปบ้าง ครั้งใดที่เขาตัดสินใจไม่กลับเข้าพิตเมื่อครบแลปนึง เขามักจะมองเข้ามาที่พิตเป็นครั้งคราว และทุกครั้งที่มอง เขาจะเห็นเชลยืนกอดอกอยู่นอกพิตเสมอ บ้างก็ยกนิ้วโป้งให้ บางก็ยืนเฉยๆ มันทำให้เคนยิ้มขึ้นมาเบาๆ ได้เหมือนกัน

 

 

ช่วงเที่ยงตรงของวันถัดมา การแข่งขันยังดำเนินไปอย่างดุเดือด เคนเพิ่งจะแซงแบนดีนี่ออกถึงสองรอบ รอบที่สองทำให้ฝ่ายเฟอร์รารี่รถพังกลางคันอย่างไม่สวยงามซักเท่าไร ทันทีที่ถึงช่วงเปลี่ยนกะ เคนกระโดดลงจากรถพร้อมเสียงเชียร์มากมาย เขาโบกมือปัดๆ แล้วเดินเข้าไปที่เก้าอี้ยาวภายใน ว่าจะพักผ่อนสายตาซักหน่อย แต่เมื่อเห็นเชลบี้เดินตามมาข้างหลังเขาจึงพูดเชิงว่าจะขออยู่คนเดียว

“อ่า ง่วงชิบหายเลยเว้ย” แทนที่เชลจะเดินหนี เขาเดินเข้ามาข้างหลังเคนและยกมือขึ้นนวดไหล่เคนให้ ใจหนึ่งอยากจะสะบัดออกแต่เอาจริงก็ต้องการให้กดจุดตรงนี้อยู่เหมือนกัน “เออ ตรงนั้นๆ ลงไปอีกนิดนึงนึง” เชลขยับตามที่อีกคนสั่งจนเคนพอใจ เขาเลื่อนตัวออกลงไปนั่ง เชลเดินเข้าไปในครัวย่อมๆ หยิบน้ำส้มและแซนวิชมื้อเที่ยงออกมาให้

“กินนี่ก่อนสิแล้วค่อยนอน ให้ท้องมันมีอะไรหน่อย” เขาวางมันไว้ข้างๆ ตัวเคน

“ขอบใจมาก”

เชลพยักหน้าแล้วเดินออกไปที่ตัวพิต แต่อีกคนเรียกชื่อไว้ก่อน “เฮ้เชลบี้”

“อืม ว่าไง”

“ที่ออกมายืนมองทุกครั้งน่ะ ขอบใจนะ”

เคนส่งยิ้มกว้างไปให้ ในสายตาของเขาดูเหนื่อยล้าจากการแข่งขัน เชลบี้ส่งยิ้มกว้างกลับไปหวังว่าจะส่งกำลังใจไปให้อีกคนได้ เคนขยับเอวให้นอนราบไปกับเก้าอี้ พลางโบกมือชวนเชลยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ เชลบี้ทำตาม จนเคนยกมือทั้งสองข้างจับข้างศีรษะเชลบี้ไว้แล้วกดจูบแน่นๆ ลงไปที่หน้าผาก พลางเลื่อนมือไปตบหลังอีกคนสองทีให้ดูเหมือนเพื่อนๆ กันทำกัน แต่สีหน้าท่าทางของเชลบี้กลับดูตกใจออกนอกหน้าจนทุกอย่างมันออกมาดูผิดพลาดไปหมด ป๋าที่ยืนมองอยู่ข้างนอกเห็นทุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้น

“อย่าแกล้งน้อง เคน”

 

 

“เขาปล้นแชมป์นาย เคน”

สิ้นสุดการแข่งขัน ผลที่ออกมาเป็นไปอย่างไม่คาดคิด แข่งมาทั้งวันเพื่อให้โดนเบื้องบนแกงแบบนี้ ก็เอาเหอะ ไอ้เด็กนั่นก็ถือว่าโชคดีไป แถมเคนเองก็ได้ความเคารพจากเจ้าของเฟอร์รารี่ขนาดนั้น ช่างมันเถอะ จากที่เหนื่อยมาหนึ่งวันเต็มๆ เขาอยากจะเจอคนๆ เดียว เขาเดินกลับไปที่พิต ปากตะโกนเรียกชื่อของเชลบี้ จนเห็นเจ้าของชื่อยืนเท้าเอวในแว่นกันแดดที่คุ้นตา สีหน้าของเขาอ่านไม่ออก แต่สีหน้าของเคนเนี่ยสิ กูลดตัวทำให้ขนาดนี้แต่รู้สึกเหมือนโดนปล้นยังไงยังนั้น

“ฉันไม่น่าขอนายเลย”

เมื่อเชลบี้พูดออกมา เคนก็เห็นแล้วว่าในน้ำเสียงของเขามีความผิดหวัง แต่ไม่ได้ผิดหวังในตัวเขา เขาผิดหวังในตัวเองที่บอกให้เคนทำเพื่อภาพลักษณ์ เขาควรจะปล่อยให้ความเร็วของ GT40 เอาที่หนึ่งมาให้ฟอร์ดมอเตอร์ แต่ตอนนี้มันไม่ได้สำคัญ เพราะคนที่สั่งก็คือคนของฟอร์ดเอง เหม็นหน้าเคน ไมล์สขนาดนั้นเลยสินะ ไม่มีอะไรสู้ได้อีกแล้วในจุดๆ นี้

เคนใช้เวลาพักหนึ่งก่นด่าพวกนั้นในใจ ก่อนจะเปลี่ยนมาค่อยๆ ยิ้ม

“นายสัญญาจะให้ฉันขับ ไม่ได้ให้ถ้วย”

เชลบี้รู้สึกโล่งใจขึ้นหน่อยเมื่อเห็นอีกคนอารมณ์ดีขึ้น

“แล้วเธอก็เป็นรถที่เจ๋งมากๆ”

“เร็วของจริง”

“ยังเร็วได้อีก”

เคนหันหน้ากลับไปหาเชล เขาเดินตรงไปที่พิต โดยมีเชลเดินไปด้วยข้างๆ “เครื่อง 7 ลิตรแรงจริง แต่โครงรถยังต้องเบาอีก”

เชลหลุดหัวเราะขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ จากการพ่ายแพ้ครั้งใหญ่นี่ คนรักเก่าของเขายังคงมองโลกในแง่ดีได้อยู่ ดีแล้วล่ะ เขากลัวว่าเคนจะหัวเสียอยู่พอดี

“ฉันนึกถึงการบอนด์อะลูมิเนียม ต้องสร้างขึ้นใหม่หมด และถ้าทำได้นะ” เมื่อเคนเห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มเกร็งน้อยลง เคนยกแขนโอบกอดคออีกคนไว้ เชลหันศีรษะมาจูบที่ฝ่ามือบนบ่าตัวเองเบาๆ ก่อนจะเลื่อนขึ้นมาจับมือนั่นแน่น เหมือนกับที่พวกเขาทำบ่อยๆ ตอนที่ยังอยู่ด้วยกัน เคนดูออก ไม่ใช่ว่าดูไม่ออก แต่ตอนนี้เขาต้องการเพียงกันและกัน ทำเหมือนว่าโลกใบนี้มีเพียงแค่พวกเขาสองคนเหมือนที่เคยผ่านมาซักหน่อยจะเป็นอะไรไป

“ขออาบน้ำ จิบชาซักถ้วย แซนวิชแฮมชีสหรืออะไรซักอย่าง”

“ฉันพานายไปกินชาบูเลยดีกว่า”

“หมูกระทะได้ไหม”

“ได้เสมอ ให้บูลด็อกอย่างนาย”

“ขอบใจนะ ทั้งเรื่องที่นายจะเลี้ยงหมูกระทะ”

“ฉันไม่ได้บอกว่าจะเลี้ย…”

“และโอกาสนี่ด้วย” เคนส่งยิ้มไปให้เชล เชลที่รู้สึกว่าตัวเองกำลังหน้าแดงต้องยิ้มกลับกลบเกลื่อนสีบนใบหน้า

“เออ” เชลตอบปัดๆ

“รักนะ”

“รักเหมือนกัน”

ทั้งคู่หัวเราะ พลางเดินหายเข้าไปในพิต ไม่มีใครเห็นว่าหลังจากนั้นพวกเขาไปไหนกันต่อ

 

end

ใส่ความเห็น

บลอกที่ WordPress.com .

Up ↑

Sean

writing and listening –

s y n a l i d e a r

☾ บล็อคจิ๋วๆลงฟิคเรื่อยเปื่อย.

Mai''

รังไหม

LUCIENA

-Psychopaths are not CRAZY-

anna1093's Blog

Interest everything that I want

redmoononthewall

Stony , Hawksilver , Johnlock ,Parksborn,Narry ,Lilo

kaonashipanda

Colourful Bamboo for panda

freebatchshipper

The Warehouse of FreeBatch Shipper

Rebellion Anthem

My Song Your Beat

Lauralyze Has a Pen

What could be more thrill than creating a world on a piece of paper with ink and a pen in your hand?

dokidaki

щ(ಥДಥщ)

Bowybowi's another story

Something move from Exteen

babibubell

Keep Calm and Ship FreeBatch <3

Deathbat News

The Most Reliable Source For Avenged Sevenfold News Since 2007.

oaeapollo's Blog

This WordPress.com site is the bee's knees

Marvel Thailand Fan

ข้อมูลและข่าวสารต่างๆของMarvel https://www.facebook.com/marvelfanpageth

JUST :A: BLOG

By bepine

The Ben Addict

Addicted to Benedict Cumberbatch in Thai

kakeru382's Blog

This is fangirl's world.