𝐑𝐞𝐦𝐢𝐧𝐢𝐬𝐜𝐢𝐧𝐠 (cliffrick shortfic) [4]

Reminiscing

rating: PG-18

tagging: smut (͡° ͜ʖ ͡°)

playlist recommendation (ฟังเพื่ออรรถรสนะคะ <3)

(track 7 to 8)


“ช่วงนี้ในฝันฉันก็มีแต่นาย”

อะไรน่ะ? หมายความว่ายังไง? คลิฟฟ์คิด ความฝันในตอนหลับ หรือว่าความฝันในอนาคต? อันนี้เป็นประโยคบอกเล่าหรือเปล่านะ หรือว่าริคคิดจะทำอะไรอยู่

“แบบว่า บางทีนายก็โผล่มาเป็นตัวประกอบในฝันฉัน บางทีก็เป็นตัวละครที่ไม่ทำอะไรเลยอะไรแบบนั้น”

เขาหันไปมองอีกฝ่าย ริคก้มหน้างุดๆ ราวกับว่ากำลังเขินและรู้สึกผิดที่พูดประโยคก่อนหน้านี้ออกไป อ่อ งั้นก็คงชัดแล้วสินะ คลิฟฟ์ยิ้มขึ้นกว้างพลางหยิบบุหรี่ขึ้นสูบ ทั้งคู่ปกคลุมอยู่ในความเงียบสนิทอีกครั้ง ริคเก้ๆ กังๆ ยกเบียร์ขึ้นจนหมดแก้วก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้

“ฉันเหนื่อยแล้วล่ะ ไว้เจอกันพรุ่งนี้ได้ไหม”

คลิฟฟ์ได้ยินพลางลุกขึ้น หยิบแก้วและซองบุหรี่ของตัวเองเก็บเข้าเสื้อ เขายิ้มให้ริค “ได้สิ ไม่มีปัญหา”

ริคเปิดประตูระเบียงออกเพื่อเดินเข้าไปในห้องนอนโดยมีคลิฟฟ์เดินตามอยู่ข้างหลัง พวกเขามองตากัน แต่ริคพยายามหลบตา ภายในแสงอันน้อยนิดคลิฟฟ์มองเห็นว่าอีกฝ่ายเขินอยู่ เขาอดใจยกมือขึ้นบีบบ่าอีกฝ่ายไม่ได้

“ฝันดีนะริค”

ริคสะดุ้งกับสัมผัส แต่เขาไม่ได้สลัดหนี เขาได้แต่หลบตาอีกฝ่าย คลิฟฟ์ยังคงจ้องริคด้วยรอยยิ้ม “อือ ฝันดีคลิฟฟ์”

คลิฟฟ์ปล่อยมือออกและเดินไปที่ประตูห้อง เพราะเจ้าของห้องยังคงเขินแก้มแดงและแทบจะระเบิดออกมาอยู่ เมื่อคลิฟฟ์เดินออกไปจากห้องพร้อมปิดประตู ริคถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะทิ้งตัวลงไปนอนบนเตียง

ตะกี้ฉันทำอะไรลงไป แค่ประโยคนั้นมันก็บ่งบอกชัดเจนแล้ว แล้วเขาดันไปทำเขินๆ ต่อหน้าคลิฟฟ์อีก ที่คลิฟฟ์ยิ้มกลับแล้วจ้องมองเขาเมื่อครู่นี้แปลว่าเขาเห็นใช่ไหมว่าเขากำลังเขินแบบออกนอกหน้าอยู่ ให้ตายสิ ทำไมเก็บความรู้สึกไม่เก่งเลยนะริค ใช่ เขารู้ตัวแล้วว่าเขารักคลิฟฟ์เข้าเต็มหัวใจ แบบนั้นเขาจะไม่เขินได้ยังไง เพราะริคได้เผลอพูดประโยคบอกรักแบบอ้อมๆ ให้คลิฟฟ์ไปแล้ว ที่คลิฟฟ์ยิ้มกลับเพราะว่าอะไรนะ? เขายินดีที่เห็นว่าริคมีใจให้ใช่ไหม? แปลว่าคลิฟฟ์เองก็มีใจให้เขางั้นหรอ? ถ้าคลิฟฟ์ไม่ได้มีใจอะไรให้เขาคงไม่ยิ้มกว้างแบบนั้นใช่ไหม? ทุกคนคิดว่าแบบนั้นใช่ไหม? ตอนนี้ริคใจไม่อยู่กับตัวแล้ว เขาลุกจากเตียงและเดินไปรอบห้องอย่างลุกลี้ลุกลน

โอ้ย ทำยังไงดีนะ ฉันต้องไปคุยกับเขาไหม เคลียร์ความรู้สึกทุกอย่าง ถ้าคลิฟฟ์ไม่ได้คิดงั้น มันจะจบมันก็จบตรงนี้ หรือถ้าไม่ใช่ ก็เป็นอีกแบบนึง ก็จะได้เอาความรู้สึกออกไปจากอกเราซักที

ริคเดินไปที่ประตู มือค้างอยู่ที่ลูกบิด คิดอยู่หนักว่าจะเปิดประตูออกไปดีไหม แต่เขาก็ยกมือขึ้นเก็บ ถ้าคลิฟฟ์ปฎิเสธเขาขึ้นมาล่ะ จะให้เรื่องของทั้งฟรานเชสกาและคลิฟฟ์มากินใจขนาดนี้เขาคงทนไม่ไหวหรอก ความเมาจากสุราที่ค้างอยู่ในร่างกายของเขาทำให้เขาเริ่มตัดสินใจอะไรไม่ได้ เขาทำท่าจะเปิดประตู แต่ก็ยกมือออกซ้ำแล้วซ้ำเล่า เอาล่ะวะ เขาเชื่อว่าคลิฟฟ์จะไม่ทำร้ายเขา เขาใส่รองเท้าพร้อมเดินขึ้นไปห้องของคลิฟฟ์ที่อยู่อีกชั้น แต่เมื่อยกประตูขึ้นเปิด กลับมีร่างสูงใหญ่ยืนอยู่ข้างหน้าอยู่ ริคผงะไปด้านหลังเมื่อเห็นว่าคลิฟฟ์ยืนอยู่ที่หน้าประตูเขา หน้าของเขาเองก็ดูช็อก มือของคลิฟฟ์ลอยอยู่กลางอากาศเหมือนกำลังจะทำท่าเคาะประตู หน้าห้องของริคเป็นโถงโรงแรมที่เปิดกว้างไปสู่ภายนอก มีเพียงรั้วกั้นกับบรรยากาศภายนอก ใบหน้าของคลิฟฟ์จึงดูคมขึ้นจากแสงอ่อนๆ ของโถงโรงแรมและแสงจันทร์ ริคก้มหน้าหนีทันทีเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายหน้าตาหล่อเหลาแค่ไหน

“ริค”

คลิฟพูดขึ้นพร้อมสีหน้าตกใจกับการปรากฎตัวของเจ้าของห้อง เจ้าของชื่อชะงัก พลางค่อยๆ ยกศีรษะมองหน้าอีกฝ่าย คลิฟฟ์ส่งยิ้มที่อบอุ่นที่สุดเขาเคยได้รับมาให้

“ฉันก็รักนายเหมือนกัน” คลิฟฟ์เอ่ยอย่างอ่อนโยน

“หา?” ริคเริ่มทำตัวไม่ถูก ไม่คิดว่าทุกอย่างมันจะทันทีขนาดนั้น จริงๆ มันก็ชัดเจนอยู่แล้วที่คลิฟฟ์ยังคงยืนอยู่ตรงนี้ แต่เขาไม่คิดว่าจะโดนแบบไม่ทันตั้งตัวขนาดนี้ คลิฟฟ์ไม่ได้พูดอะไรตอบ เพียงแต่มองริคเหมือนกำลังรออะไรซักอย่าง อ่อ เขาต้องพูดคำนั้นสินะ ริคก้มหน้าเพื่อกลับไปตั้งตัวคิดซ้ายคิดขวา เอาล่ะ ยังไงก็ถึงเวลาแล้ว แต่ก่อนริคจะพูดอะไรออกไป มือของอีกฝ่ายก็ค่อยๆ วางลงที่ข้างแก้มของเขา

“ที่นายบอกว่าฉันอยู่ในฝันนาย แปลว่านายคิดถึงฉันอยู่ตลอดเวลาหรือเปล่า”

ริคเงยหน้าขึ้นมองอีกคน คลิฟฟ์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้เขามากขึ้น มือขวาที่วางที่แก้มของเขามันอ่อนโยนจนริคแทบจะละลายไปกับสัมผัสนั้น และสายตากับรอยยิ้มของคลิฟฟ์ที่ส่งมาเหมือนจะทำให้เขาเป็นลมไปได้ทุกเมื่อ ไม่ เขาจะไม่ยอมแพ้ในเกมนี้

ริคหยิบมือข้างที่ถนัดจับคอเสื้อของอีกฝ่ายแล้วดึงเขาเข้ามาในห้อง เท้าพลางยกถีบประตูให้ปิดลงเสียงดัง ก่อนจะกดอีกคนไว้กับประตู ร่างกายของพวกเขาวางแนบสนิทชิดกัน ใบหน้าของเขาห่างกันไปแค่ไม่กี่นิ้ว ริคเลื่อนขาข้างหนึ่งแทรกไว้ระหว่างขาของอีกฝ่าย แล้วค่อยๆ ยกเข่าขึ้นเพื่อสัมผัสส่วนกลางของคลิฟฟ์

“ฉันชัดเจนพอไหม?”

คลิฟฟ์ยิ้มขึ้นที่มุมปาก ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปกระซิบข้างหูอีกคน “นายกำลังเมา ริค นายมั่นใจจะทำเรื่องนี้หรอ” เมื่อจบประโยค ริคยกมือทั้งสองข้างจับศีรษะของคลิฟฟ์เพื่อจับเขามาประทับริมฝีปากด้วยอย่างรุนแรงแล้วผละออกทันที เขามองในตาของอีกฝ่ายด้วยความตกใจ คลิฟฟ์เองก็ตกใจไม่ต่างกัน แต่สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นยิ้มที่อ่อนโยน

“นั่นเป็นจูบแรกของเราที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยนะ”

เมื่อคลิฟฟ์พูดจบ เขายกมือขึ้นลูบแก้มเจ้าของผมสีน้ำตาล ก่อนจะค่อยๆ ประทับจูบลงไปช้าๆ มันเป็นจูบที่นุ่มนวลต่างจากครั้งที่ผ่านมา ริคแทบจะละลายไปกับจูบนั้น คลิฟฟ์รสชาติเหมือนบุหรี่กับเชอร์รี่ และริคก็รสชาติหวานกว่านั้น แอลกอฮอล์กับความหอมหวานของความรักที่เขาเก็บไว้ให้ริคมาตลอดหลายเดือน ขาของริคที่เลิกขึ้นอยู่อ่อนแรงตามความโรแมนติคของจูบที่เพิ่มขึ้นทุกๆ วินาที ริมฝีปากของพวกเขาสัมผัสกันอย่างอ่อนโยนในตอนแรก และเมื่อสุราที่ไหลเวียนอยู่ในเลือดของพวกเขาเริ่มกลับมาทำงานอีกครั้ง จูบนั้นก็เปลี่ยนเป็นร้อนแรง ริควางมือที่ใบหน้าของอีกฝ่ายไม่ให้หนีไปไหน คลิฟฟ์โอบทั้งแขนไว้ที่เอวของอีกคน ริมฝีปากของพวกเขาบดขยี้กัน ลิ้นพันกันโดยมีเสียงร้องความพึงพอใจเล็ดลอดออกมาเล็กน้อยจากริค คลิฟฟ์ผละออกจากจูบพลางเลื่อนลงไปที่ซอกคอ มือของเขาโอบไปทั้งแผ่นหลังเพื่อให้ร่างกายของเขาชิดกันมากขึ้น ริคเงยหน้าขึ้นเพื่อให้ง่ายต่ออีกคน ในบรรดาผู้หญิงที่เขานอนด้วยตั้งแต่ฟรานเชสกามาแล้ว ไม่มีใครทำให้ริครู้สึกตื่นตัวเท่านี้มาก่อน จะเป็นเพราะสุราหรือความรู้สึกของเขาเองจริงๆ เขาเองก็แยกไม่ออกแล้วตอนนี้

คลิฟฟ์เม้มปากลิ้มรสที่ซอกคออีกฝ่ายราวกับว่าเขารอสิ่งนี้มานาน ราวกับว่าเป็นอาหารมื้อดึกของเขา เขารู้ตัวดีว่าตอนนี้กำลังเมาและพวกเขาไม่ควรปล่อยเนื้อปล่อยตัวขนาดนี้ อะไรจะเกิดขึ้นก็ได้ในตอนเช้าที่พวกเขาสร่างแล้ว คลิฟฟ์รู้ดีและเขาไม่อยากทำให้ความทรงจำนี้เป็นแผลในใจของพวกเขา แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ

ริคครางก็เสียงดัง แข็งก็แข็งใหญ่แล้ว จะไปห้ามใจได้ยังไง!

ร่างของริคถูกยกและวางลงที่เตียงควีนไซส์ ตอนนี้ที่คลิฟฟ์อยู่ข้างบนเขาแล้ว ริคยกขาทั้งสองข้างโอบร่างอีกฝ่ายไว้พร้อมประทับจูบใส่กันอีกครั้งและยกศีรษะกัดริมฝีปากบนของอีกคน ริคเลื่อนมือไปที่ปลายเสื้อของคนข้างบนพลางจะให้เขาถอดออก คลิฟฟ์ผละออกจากจูบเพื่อถอดเสื้อยืดของเขาแล้วกระแทกริมฝีปากลงมาอีกครั้ง มือข้างหนึ่งของเขาเลิกขึ้นเพื่อปลดกระดุมชุดของริค เขาเลื่อนลงมาขมเม้มที่ซอกคอสีแทนและไม่กี่เวลาต่อมา ทั้งสองคนก็ไม่มีอะไรปกปิดในท่อนบนอีกต่อไป ริคเลื่อนมือขึ้นสัมผัสรอยแผลเป็นตามแผ่นอกของอีกฝ่ายอย่างนุ่มนวล

“ริค เราไม่ควร” คลิฟฟ์พูดขึ้นในจูบ มือหนึ่งของเขาเลื่อนลงไปบีบเป้ากางเกงของอีกคน ริคครางเสียงสูงเป็นคำตอบ เขาสัมผัสได้อีกระหว่างขาของอีกฝ่ายว่าเขาเองก็ต้องการสิ่งนี้ เขายกริมฝีปากขึ้นไปประกบอีกคนด้วยความพึงพอใจพลางเลื่อนมือขึ้นสัมผัสรอยแผลเป็นตามแผ่นอกของอีกฝ่ายอย่างนุ่มนวล เสียงครางนั่นแทบจะทำให้คลิฟฟ์เป็นบ้า เขาอยากทำทุกอย่าง ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ ใบหน้าแดงก่ำและสายตาที่เต็มไปด้วยความต้องการของริคเริ่มทำให้เขาห้ามใจตัวเองไม่ไหว เขารู้ว่าสุดท้ายเขาต้องหยุด พวกเขาเมาอยู่นะ และนั่นไม่ใช่ข้อแก้ตัวสำหรับตอนเช้าด้วย

“เราไม่ต้องไปให้สุดก็ได้ ฉันรู้ว่าพวกเราเมา” ริคตอบด้วยเสียงอ่อนแรง มือหนาของอีกคนที่กำลังสัมผัสกล้ามเนื้อใต้ร่มผ้าทำให้เขาเริ่มประกอบคำพูดไม่ได้ เห็นทีว่าจะต้องใช้วิธีแสดงเอา ริคจับบ่าของอีกฝ่ายแล้วพลิกตัวให้ตัวเองขึ้นมาอยู่ข้างบน ก่อนจะค่อยๆ เลื่อนตัวลงต่ำ “เราทำแค่นี้ก็ได้” ก่อนกางเกงของคลิฟฟ์จะถูกถอดออกด้วยแรงดึงครั้งเดียว แก่นกลางที่เป็นอิสระตั้งสูงขึ้นตรง ริคเหล่ปลายสายตามองอีกฝ่ายพลางเลียริมฝีปากของตัวเองก่อนจะลูบคลำมัน คลิฟฟ์คำรามเสียงต่ำในคอของเขา เพียงไม่กี่นาทีต่อมาเขาก็รู้สึกถึงริมฝีปากสัมผัสส่วนล่างของเขา ริคยกมือช้างหนึ่งไล่ขึ้นมาตามแผ่นอกและมาถึงริมฝีปากของคลิฟฟ์และคลิฟฟ์หยิบนิ้วหนึ่งนั้นเข้าไปขบเม้ม มืออีกข้างพลางกดศีรษะให้ริคขึ้นลงตามจังหวะ

ริคยกมือกลับพลางผละริมฝีปากออกจากแก่นกายหนา ก่อนจะทิ้งจูบเบาไว้ที่ส่วนหัว จากนั้นก็เม้มทั้งริมฝีปากเข้าไปทั้งส่วนนั้นแค่ส่วนเดียว คลิฟฟ์ถอนหายใจเหมือนกับว่าเขาต้องการเพิ่มอีก ริคกำลังปั่นหัวเขาอยู่ เขาพยายามเลื่อนมือตัวเองเข้าไปช่วยแต่กลับโดนริคจับไว้ไม่ให้ขยับไปไหน สายตาของริคที่จ้องขึ้นมาและริมฝีปากที่ยังนัวเนียอยู่ตรงนั้น

เขาทำเหมือนมันคือไอศกรีม

และเมื่อเขาเริ่มกดริมฝีปากต่ำลงไปอีกครั้ง คลิฟฟ์ต้องโยนศีรษะทิ้งลงไปกับเตียง แผ่นหลังโก่งขึ้นทำให้อีกฝ่ายสำลัก แต่มันไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด ขอบตาของริคเปื้อนน้ำตาและขอบริมฝีปากของเขาบวมแดงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่คลิฟฟ์จะไปสุดทาง เขาผลักอีกฝ่ายออกแล้วกระแทกตัวก้มลงไปจูบอีกฝ่าย มือของเขาขับมือของริคให้จับไว้ที่เส้นเอ็นที่โตเต็มที่ก่อนจะครางเสียงต่ำเมื่อเขาไปถึงจุดสูงสุด คลิฟฟ์ใช้โอกาสนั้นช้อนตัวร่างขึ้นมาแล้ววางไว้บนหมอนที่หัวเตียงอย่างอ่อนโยน ก่อนเขาจะไล่ตัวเองลงไปที่กางเกงของริคบ้าง แล้วค่อยๆ ถอดมันออก เขาทำสิ่งเดียวกับที่ริคทำให้เขา เพียงแต่ว่าริคส่งเสียงดังกว่า และดิ้นด้วยความหวาดเสียวบ่อยกว่า คลิฟฟ์ต้องใช้ทั้งแขนพยายามกดตัวให้อีกฝ่ายอยู่นิ่งๆ

 

 

ทั้งห้องเต็มไปด้วยบรรยากาศของเซ็กซ์ ไฟที่ปิดไว้ เสื้อผ้าที่ถูกโยนทิ้งเรี่ยราดตามพื้น เสียงขยับตัวอยู่บนเตียงและเสียงครางของผู้ชายทั้งสองคนในห้องนั้น อากาศในห้องร้อนขึ้นถึงแม้ทั้งคู่จะมีอะไรปกคลุมร่างกายนอกจากร่างกายของกันและกันเอง เตียงเริ่มเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ร่างกายของพวกเขาเหนอะหนะไปทั้งเหงื่อและของเหลวสีขาวอุ่น ไม่มีใครจำได้ว่าเวลาผ่านมาแล้วทั้งหมดกี่นาทีตั้งแต่พวกเขาเริ่มต้นความบ้าคลั่งนี้ แต่ถ้าถามว่ากี่รอบแล้ว ริคจำได้ว่าสี่ แต่คลิฟฟ์จำได้ว่าสอง พวกเขาเริ่มคุยกันไม่รู้เรื่องแล้ว อาการเมาเซ็กซ์มันเป็นแบบนี้เองนั่นหรอ ว่าแล้วคลิฟฟ์ก็กระแทกจูบเข้าไปที่อีกฝ่ายอีกครั้ง

และ ไม่ พวกเขาไม่ได้ไปกันจนสุดทางในคืนนี้ มีแค่เพียงการนัวเนียกันไปมา ริมฝีปากขบเม้มที่ซอกคอและจุกสีชมพู ท่าตัวเลขหลักสิบที่แสนพิสดาร ทั้งใช้มือและใช้ปาก คลิฟฟ์อาจจะเผลอล่วงเกินช่องทางข้างหลังที่ปิดสนิทของอีกคนไปบ้างซักนิ้วสองนิ้ว และได้รับเสียงความพึงพอใจกลับมาในระดับนึง แต่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ครั้ง เมื่อทั้งสองสัมผัสกันแต่ละครั้งมันเหมือนกับมีไฟลุกโชนตลอดเวลา นี่คือเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงยังไม่เหนื่อยซักที ยิ่งนานขึ้นทุกอย่างเริ่มรุนแรงขึ้น แต่พวกเขาเมาเกินไปที่จะทำอะไรเลยเถิดไปมากกว่านั้น จนความรุ่มร้อนภายในร่างกายของพวกเขามาถึงจุดสูงสุด และอากาศภายในห้องน้อยเกินไป ไม่สามารถทำให้พวกเขาทำอะไรต่อไปได้ นั่นคือช่วงที่พวกเขาต้องหยุด คลิฟฟ์และริคนอนหงายหน้ามองเพดานพร้อมแย่งกันหายใจ มือของพวกเขาประสานกันแต่ทั้งคู่ไม่เปิดปากพูดอะไร ตั้งแต่เมื่อไรนะที่อากาศมันร้อนขนาดนี้

“ให้ฉันเปิดหน้าต่างไหม” คลิฟฟ์กล่าวขึ้น เมื่อริคพยักหน้า เขาก็ลุกขึ้นไปเปิดประตูที่ระเบียงออก พลางยืนรับลมที่ขอบประตู ริคชายตามองเรือนร่างของอีกฝ่ายในแสงจันทร์ แขนข้างหนึ่งที่เท้ากับขอบประตูและอีกข้างอยู่ที่เอวของเขา ริคห้ามใจไม่ได้พลางลุกขึ้นเดินไปสวมกอดอีกคนจากด้านหลังแล้วจูบลงไปที่บ่าของเขา คลิฟฟ์ที่โดนโอบเลื่อนมือไปจับศีรษะของอีกฝ่ายแล้วหันศีรษะเข้ามาจูบอย่างอ่อนโยน เขาค่อยๆ พลิกตัวให้หันหน้าเข้ามาหาริค แต่จากจูบที่อ่อนโยนก็เปลี่ยนกลายเป็นร้อนแรง ริคโดนยกลงไปวางลงที่เตียงอีกครั้ง

ครั้งนี้เองที่พวกเขาหมดแรงจริงๆ และเริ่มต้องการพักผ่อน แต่ว่าเนื้อตัวเองก็เหนียวจนไม่สามารถจะหลับลงได้ ทั้งคู่เข้าไปอาบน้ำล้างตัว แต่ก็ได้มีแค่อาบน้ำอย่างเดียวอีก เสียงของริคดังก้องไปในห้องสี่เหลี่ยมเล็ก ทำตัวเหมือนกับเป็นเด็กวัยรุ่นที่จะกี่ทีก็ไม่เหนื่อยไม่เบื่อ ทั้งคลิฟฟ์และริคเองก็ไม่เชื่อในพลังงานของตัวเองวันนี้ แทบจะเป็นครั้งแรกของชีวิตที่เสร็จในช่วงเวลาไม่กี่ชั่วโมงบ่อยขนาดนี้ แต่ครั้งสุดท้ายของคืนนี้ก็คือระหว่างอาบน้ำนั่นเอง เมื่อพวกเขากลับมาถึงเตียง พวกเขาแทบจะจำไม่ได้ว่าคุยกันอะไรกันไป แต่ทั้งสองก็หลับไปในอ้อมอกกันและกัน

 

 

เช้าวันต่อมา ริคตื่นมาพร้อมกับความเหนื่อยราวกับว่าเมื่อคืนแทบไม่ได้นอน เขานอนหลับสนิท ไม่รู้สึกถึงแสงแดดแรงที่สาดเข้าห้องแต่พลังงานของเขาแทบไม่เพิ่มขึ้นเลย ริคมองไปรอบเตียง เขาไม่ได้ใส่อะไรนอน และก็เจอร่างหนา ผมบลอนด์ยาวสีทองอยู่ชิดร่างของเขา คลิฟฟ์นอนคว่ำหันไปอีกทาง ผมสีบลอนด์ของเขาปลิวเล็กน้อยไปตามลมที่เข้ามาทางหน้าต่าง ริคยิ้มกับตัวเองแล้วก้มเข้าไปหยิบปลายผมของอีกฝ่ายและจูบลงไปช้าๆ คลิฟฟ์รู้สึกถึงการสัมผัสที่อ่อนโยน เขาค่อยๆ พลิกตัวเข้ามาจูบทักทายยามเช้าที่สันจมูกคืนกลับ

“อรุณสวัสดิ์ริค”

“อรุณสวัสดิ์”

“เมื่อคืนสุดยอดเลย”

ริคขมวดคิ้วเมื่ออีกฝ่ายเปิดเรื่องคุยด้วยเรื่องเขาเองยังไม่แน่ใจว่าได้เกิดขึ้นไปหรือเปล่า อื้อ ท่าทางมันคงเกิดไปแล้วล่ะเนอะ หวังว่าพวกเขาจะยังมองหน้ากันติดอยู่นะ แต่ถ้าคลิฟฟ์พูดแบบนั้นแปลว่าเขาไม่คิดอะไรงั้นสินะ? งั้นทำเป็นเล่นตลกไปดีไหม

“หมายถึงอากาศน่ะหรอ”

“ใช่ อากาศที่อบอ้าวมากๆๆๆ ในห้องเราเพราะว่า…” กลายเป็นว่าพูดแบบนั้นมันเปิดทางให้คลิฟฟ์เล่นอะไรทะลึ่งมากขึ้น เขาหันหน้ามามองริคด้วยสายตากวนตีน ริคโยนหมอนใส่หน้าเขาก่อนจะลุกไปอาบน้ำ โดยที่มีคลิฟฟ์รีบกระโดดจากเตียงแทรกตัวเข้าไปในช่องประตูห้องน้ำทันก่อนมันจะปิดลง

 

ใส่ความเห็น

บลอกที่ WordPress.com .

Up ↑

Sean

writing and listening –

s y n a l i d e a r

☾ บล็อคจิ๋วๆลงฟิคเรื่อยเปื่อย.

Mai''

รังไหม

LUCIENA

-Psychopaths are not CRAZY-

anna1093's Blog

Interest everything that I want

redmoononthewall

Stony , Hawksilver , Johnlock ,Parksborn,Narry ,Lilo

kaonashipanda

Colourful Bamboo for panda

freebatchshipper

The Warehouse of FreeBatch Shipper

Rebellion Anthem

My Song Your Beat

Lauralyze Has a Pen

What could be more thrill than creating a world on a piece of paper with ink and a pen in your hand?

dokidaki

щ(ಥДಥщ)

Bowybowi's another story

Something move from Exteen

babibubell

Keep Calm and Ship FreeBatch <3

Deathbat News

The Most Reliable Source For Avenged Sevenfold News Since 2007.

oaeapollo's Blog

This WordPress.com site is the bee's knees

Marvel Thailand Fan

ข้อมูลและข่าวสารต่างๆของMarvel https://www.facebook.com/marvelfanpageth

JUST :A: BLOG

By bepine

The Ben Addict

Addicted to Benedict Cumberbatch in Thai

kakeru382's Blog

This is fangirl's world.